LED
LED light therapy เทคโนโลยีฉายแสง ผ่อนคลาย ปลอดภัย ไร้ความเจ็บปวด สามารถช่วยดูแล ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย รักษาสิว และฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย ทั้งยังสะดวกและปลอดภัย ใช้เวลาไม่นาน ไม่ก่อให้เกิดรอยแผล และไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จสามารถออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

การฉายแสง LED (Light-Emitting Diode) คือ เทคโนโลยีที่ช่วยดูแลผิวพรรณ โดยใช้ความเข้มแสงสูงมากพอในระดับ จูลล์/ตารางเซนติเมตร และจะต้องมีค่าความสว่าง (Milicandela Rating) ในอัตราที่สูง จึงจะสามารถทำปฏิกิริยากับเซลล์ผิว ช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิวได้ โดยแสงที่ใช้รักษาจะมีหลายสี ซึ่งแสงแต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เพื่อบำบัดผิว แก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกันออกไป
การฉายแสง LED ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 4 สี ประกอบด้วย สีฟ้า สีแดง สีเขียว และสีเหลือง โดยในการบำบัดผิวด้วยการฉายแสง LED จะฉายแสง LED เพียงสีเดียว หรือ 2 สีก็ได้ ซึ่งแพทย์จะประเมินจากปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคลก่อน
- แสงสีฟ้า (Blue light, ความยาวคลื่น 470 nm)
มีคุณสมบัติในการรักษาสิวอักเสบ สิวติดสารสเตียรอยด์ สิวแพ้ต่างๆ และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.Acne สาเหตุของการเกิดสิว รวมไปถึงช่วยลดความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวอุดตันอีกด้วย เหมาะกับคนที่มีสิวอักเสบจำนวนมาก และไม่ต้องการใช้ยาแบบรับประทาน หรือคนที่สิวหายยากจากการดื้อยา
- แสงสีเขียว (Green light, ความยาวคลื่น 527 nm)
มีคุณสมบัติในการรักษารอยดำ ลดการสร้างเม็ดสี ปรับสีผิวให้กระจ่างใสเช่นเดียวกับแสงสีเหลือง แต่จะนิยมใช้ลดรอยดำมากกว่า นอกจากนี้แสงสีเขียวยังจะช่วยรักษาอาการแพ้ต่างๆ ได้ด้วย เหมาะกับคนที่มีปัญหารอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น ผิวหมองคล้ำ
- แสงสีเหลือง (Yellow light, ความยาวคลื่น 590 nm)
มีคุณสมบัติในการรักษารอยแดง ลดการสร้างเม็ดสี คืนความกระจ่างใสให้กับผิว รักษาเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนัง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง และระบบการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
- แสงสีแดง (Red light, ความยาวคลื่น 640 nm)
มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า กระชับกล้ามเนื้อ ปรับผิวให้เรียบเนียน รวมไปถึงลดการอักเสบของผิวอีกด้วย (นิยมฉายคู่กับแสงสีฟ้า เนื่องจากในบางเคสอาจจะต้องมีการกดสิว ซึ่งแสงสีแดงจะช่วยทำให้ผิวบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้น และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น) เหมาะกับคนต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ผิวแข็งแรง ลดปัญหาสิวเกิดใหม่
LED light therapy ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
โดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นผลเมื่อรับการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เช่น ในกรณีสิวอักเสบ พบว่าสิวอักเสบค่อยๆ ยุบตัวลง ใบหน้ามีความมันน้อยลง รอยสิวดูจางลง ผลการรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลา และความสม่ำเสมอในการรักษา ควรทำต่อเนื่องกัน 4-8 สัปดาห์ขึ้นไป แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาจากปัญหาผิวและสภาพผิวของที่เป็นอยู่ของแต่ละบุคคล